WISHARAWISH Presented by PKRU
ไข่มุกแห่งอันดามันหรือเกาะภูเก็ต จังหวัดเล็กๆ ทางฝั่งทะเลอันดามันภาคใต้ของประเทศไทย เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ที่นอกเหนือไปจากความสวยงามทางธรรมชาติและเสน่ห์ของความเป็นเมืองท่องเที่ยวนั้น ภูเก็ตและจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันอื่นๆ ยังมีวัฒนธรรมของชุมชนที่มีรากฐานมาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นในเรื่องของผ้าบาติก ผ้าปาเต๊ะ และผ้าท้องถิ่นอื่นๆ ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และต่อยอด

โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าท้องถิ่นไข่มุกอันดามันสู่สากล โดย มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกันในการนำองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดามันในเรื่องผ้าบาติกและผ้าท้องถิ่นอื่นๆ ดั้งเดิมของชุมชน/กลุ่มที่มีความโดดเด่นในจังหวัดภูเก็ต กระบี่ และพังงา ทั้งสิ้น 4 ชุมชน ได้แก่ รักษ์บาติก จังหวัดภูเก็ต, ผ้าทอซาโอริ จังหวัดพังงา, ผ้าทอทุ่งทะเล จังหวัดกระบี่ และ ไฑบาติก จังหวัดกระบี่ กับ แบรนด์ WISHARAWISH จนเกิดเป็นคอลเลกชั่น WISHARAWISH Presented by PKRU ณ งาน ELLE Fashion Week 2019 นี้

WISHARAWISH รำลึกถึงความรื่นรมย์ทั้งปวงในช่วงเวลาของการพักผ่อนหย่อนใจที่เขาได้รับทุกครั้งที่ได้สัมผัสหาดทะเลอันดามัน วิชระวิชญ์ อัครสันติสุข ใช้คู่สีในการนำเสนอรูปแบบและช่วงเวลาของชีวิตริมหาดที่หมุนวนอยู่กับความงามของพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าในขณะที่ท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนสี จากสีแดง ม่วง จนเข้าสู่ความมืดมิด ที่มีเพียงแรงลมและเสียงคลื่นที่ถูกถ่ายทอดผ่าน silhouette ของชุดและเอกลักษณ์ของผืนผ้าที่พลิ้วไหวในทุกก้าวเดิน บรรยากาศของการพักผ่อนถูกจำลองผ่านเทคนิคการตัดเย็บที่ซับซ้อนให้เกิดเป็นรูปทรงที่เรียบง่านแต่กลับทรงพลังในการปลุกเร้าประสาทสัมผัสทั้งหลายของเราให้หวนกลับไปนึกถึงวันของเราบนชายหาดและท้องทะเล

WISHARAWISH Presented by PKRU
The Pearl of Andaman or Phuket is a small province on the Andaman coast of Southern Thailand is a world-famous destination. However, apart from the natural beauty and touristic charms, Phuket and other provinces on the Andaman coast possess a shared cultural heritage that deserves to be explored Batik.

The Phuket Rajabhat University, has, therefore, organized, as part of a Phuket local product development project, this creative collaboration between 4 local Batik producers namely; Rak Batik from Phuket, Saori from Phang-nga, Tung Talay from Krabi, and Thai Batik from Krabi, and Thai fashion brand WISHARAWISH that results in this WISHARAWISH Presented by PKRU at ELLE Fashion Week 2019.

WISHARAWISH reminisces all the tranquility, peace, and joy he receives every time he sets foot on the beach of the Andaman sea. Wisharawish Akarasantisook employs colors and color-pairs to represent each period of beach life that seems to always revolve around dusk where the beauty of the setting sun and its skies lies in the changing of colors; from red to purple to blue and to darkness. He goes on to imitate the breeze and the sound of the sea through the use of silhouettes and the natural characteristics of his chosen fabrics that flutter with each step. On and on the designer plays with our sensibilities by employing his masterful techniques to create something so simple in form yet so powerful in reflecting and simulating the ambiences that invoke our longing for those days at the beach and the sea.

LANDMEE’ Fall-Winter COLLECTION 2019
กลิ่นอายจากวัฒนธรรมในยุค 70s ถือเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของแบรนด์ Landmee’ (แลนด์มี่) ที่ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ประจำแบรนด์อย่าง เนตรดาว วัฒนะสิมากร คงไว้ซึ่งซีซั่นใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้เล่าเรื่องราวการเดินทางครั้งใหม่ ที่เสียงเพลง We Will Rock You ดังกระหึ่มกึกก้อง สลับกับเสียงเพลงร็อคของ Van Halen (แวน เฮเลน) และ David Bowie (เดวิด โบวี่) จึงไม่น่าแปลกใจถ้าบนมู้ดบอร์ดของคอลเลกชั่นประจำฤดูกาล Fall-Winter 2019 “Landmee’ Forever” ครั้งนี้ จะเต็มไปด้วยรูปภาพของเหล่าบรรดานักร้องยุคแกลมร็อค เรื่อยมาตั้งแต่ Marc Bolan (มาร์ก โบแลน) ไปจนถึงระดับปรมาจารย์อย่างท่าน Sir Elton John (เซอร์เอลตัน จอห์น) ที่ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ดนตรีคือแรงขับเคลื่อนหนึ่งที่สำคัญของโลกแฟชั่น และสามารถสร้างแรงบันดาลใจที่เรามองหาได้ทุกแห่งหน เพียงแค่คุณเปิดใจและดึงเอาเสียงเพลงมาใช้ในงานดีไซน์ จากบทเพลงทั้งหลายเหล่านั้น ในอีกบริบทหนึ่งเสียงเพลงเป็นสิ่งจับต้องไม่ได้ แต่เราสามารถใช้ใจฟังได้ ซึ่งนั่นคือนิยามของคอลเลกชั่นนี้ที่ชัดเจนยิ่ง ความสนุก และสุดโต่งของศิลปินในยุคที่เราเรียกกันติดปากว่า Glam (แกลม) ตั้งแต่ การแต่งหน้า การแต่งตัว สีสันแวววาวอย่างสีโทนเมทัลลิค, ซาตินสีสด, วัสดุหนังสีทอง, เดนิมสีเข้ม, ผ้ากำหยี่ หรือแม้กระทั้งลูกไม้ทอเอง ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของแบรนด์ Landmee’ ถูกหยิบยกและนํามาใช้บนรายละเอียดที่ซับซ้อน พร้อมลูกเล่นเช่นการปักแบบแฮนด์เมด อีกทั้งเลื่อม โลหะ และเพชร ที่สร้างสรรค์งานปักในรูปทรงต่างๆ อาทิ สัญลักษณ์ของดาวและตัวโน๊ต ถูกดึงมาใช้ได้อย่างลงตัวในแบบฉบับสาว Landmee’

อนึ่ง การตีโจทย์จากความเกรี้ยวกราดของแนวดนตรีให้ออกมาเป็นความเซ็กซี่ที่เผยตัวตนของสาว Landmee’ ก็ดูจะน่าสนใจไม่น้อย ที่ในครั้งนี้สามารถมองเห็นความสวยน่ารักแต่แฝงด้วยความเปรี้ยวเท่แบบชาวแกลมร็อค ที่ดีไซน์มาในรูปแบบของ กางเกงยีนส์ทรงสวยเอวสูงขาบานเล็กน้อย ถูกนํามาแมทช์กับเสื้อทอโปร่งแต่มีดีเทลและซีลูเอทที่สร้างความยวนเย้า หรือแม้แต่เสื้อผ้าโครงสร้างของผู้ชายอย่างสูทที่เข้าชุดในแบบจั๊มป์สูททรงหลวม ที่ชวนให้สรรเสริญถึงการมองข้ามเพศสภาพ  ที่ไม่ว่าชายหรือหญิงก็สามารถแต่งตัวได้แบบไม่มีเส้นแบ่งพรมแดนอีกต่อไป 

ดนตรี คือ ความสนุก เสียงดนตรีเป็นสื่อที่นำพาคนทุกชนชั้นให้มาอยู่รวมกันโดยไม่มีข้อแม้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถสนุกกับเสียงดนตรีและสนุกกับเสื้อผ้าของ Landmee’ คอลเลกชั่น Landmee’ Forever ที่จะพาเราย้อนกลับไปถึงภาพความทรงจำของดนตรีในอดีตผสมกับความทันสมัยและแนวคิดใหม่ของดนตรีในโลกยุคปัจจุบัน ดังเช่น Landmee’ Girls สาวสวยแซ่บที่ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ทั้งการแต่งตัวและแนวความคิด

คุณสามารถเลือกซื้อคอลเลกชั่นใหม่ได้แล้วที่
Landmee’ Shop ณ ศูนย์การค้าสยามสแควร์ วัน ชั้น 2
หรืออัพเดตข้อมูลได้ทาง
อินสตาแกรม @landmee_officel ผ่าน #LandmeeFW19 #LandmeeGIRLS

MESHMUSEUM SPRING - SUMMER 2020
“ชุดเจ้าสาวเป็นเสมือนสัญลักษณ์หนึ่งของช่วงชีวิตและในความเป็นส่วนหนึ่งของห้วงนาทีที่สำคัญของชีวิต การออกแบบชุดเจ้าสาวจึงไม่ต่างจากธรรมชาติของชีวิต ชีวิตของคนเรานั้นสั้น ไม่สามารถคาดเดาได้และทุกความเป็นไปได้มาพร้อมกับไอเดียมากมายอันไม่รู้จบ” - พลัฏฐ์ พลาฎิ, ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์

ความงดงามในความแข็งแกร่ง ความเปราะบาง นุ่มนวล ละมุนละไมราวกับบทกวีและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก คือ คำนิยามคอลเลกชั่นชุดเจ้าสาวของเมชมิวเซียมประจำฤดูใบไม้ผลิ ปี ค.ศ. 2020  โดยผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ พลัฏฐ์ พลาฎิ ได้มองย้อนไปถึงช่วงเวลาอันเฟื่องฟูของวัฒนธรรมตะวันออกในโลกตะวันตกช่วงปี ค.ศ.1920 ประกอบกับเอกลักษณ์ของบิวตี้ไอค่อนแห่งยุคอย่างแอนนา เมย์ หว่อง (Anna May Wong) ผู้สะท้อนภาพความแข็งแกร่งและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ในแบบของเมชมิวเซียม

เช่นเดียวกับผลงานคอลเลกชั่นชุดแต่งงานที่ผ่านมาซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมาแล้วในปีก่อนหน้านี้ ในปีนี้เมชมิวเซียมยังคงถ่ายทอดจินตนาการผ่านการทดลองกับโครงสร้างและรายละเอียดของชุดภายใต้คำจำกัดความว่า “ฮาร์ดคอร์ โรแมนซ์” ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคนิคทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปวัฒนธรรมจีน ไม่ว่าจะเป็นลวดลายดอกไม้ ลายเสือ รวมถึงรูปทรงตะเกียงกระดาษและพลุไฟ ประกอบกับลวดลายจากศิลปะตะวันตกในยุคอาร์ทเดคโค่ (Art Deco) ผ่านเทคนิคการปักเลื่อมผสมดอกไม้สามมิติและขนนกนานาชนิดที่ถูกตกแต่งบนชุดร่วมกับการเดรปปิ้งอย่างแยบยลและการใช้ผ้าต่างชนิดผสม เช่น ผ้าลายมัวเร (Moire) ผ้าทาฟต้าผ้าทูล ผ้าไหมหลากหลายชนิด จนเกิดเป็นสุนทรียศาสตร์รูปแบบใหม่อันเกิดจากการผสมผสานรายละเอียดลวดลายและสีสันจากงานฝีมือและศิลปะของโลกตะวันออกและงานออกแบบของตะวันตกที่ให้ความรู้สึกราวกับหลุดมาจากโลกของความฝัน

ทั้งนี้คอลเลกชั่นชุดเจ้ำสาวประจำฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 2020   จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานของเมชมิวเซียมที่ได้เนรมิตให้ทุกชุดเป็นเสมือนตัวแทนของความฝันที่ย่างกรายไปสู่โลกแห่งความจริงในทุกๆ ความเคลื่อนไหวของเจ้าสาวด้วยความเชื่อที่ว่าการสร้างสรรค์ชุดเจ้าสาวนั้นไม่ต่างจากชีวิตที่ทุกความคิดมีความเป็นไปได้อย่างไม่รู้จบ

#WISHARAWISH #LANDMEE #MESHMUSEUM #EFWFW19 #SeeYouAtTheTent #ELLE25thAnniversary #Phoenixor #iamdoeme