นับเป็นความตั้งใจจริงของคุณบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และคุณสมพล ชัยสิริโรจน์ ผู้จัดการโครงการ The Forgotten Show (เดอะ ฟอร์ก็อตเทน โชว์) ที่ต้องการจะส่งเสริมและพัฒนาผลงานการออกแบบเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ต่างๆ ของบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ให้มีศักยภาพ คุณภาพ เพิ่มความโดดเด่น และมีนวัตกรรมต่างๆ มากขึ้น

อีกทั้งยังต้องการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแฟชั่นมาอย่างยาวนาน จึงได้จัดโครงการ “The Forgotten Show 2019 (เดอะ ฟอร์ก็อตเทน โชว์ 2019)” ขึ้น ในงานสหกรุ๊ป แฟร์ ครั้งที่ 23 และถือเป็นปีที่ 7 ของการจัดโครงการฯ ดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการคัดเลือกแบรนด์ชั้นนำของบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จำนวน ทั้งสิ้น 15 แบรนด์ ได้แก่ ELLE Boutique (แอล บูติค) / ELLE Homme (แอล ออม) / ELLE Kids (แอล คิดส์) / Excellency (เอ็กเซลเลนซี่) /Enfant (อองฟรองต์) / Guy Laroche (กี ลาโรช) / Guy de Guy Laroche (กี เดอ กีลาโรช) / Guy Laroche Bag (กี ลาโรช แบค) / Guy Laroche Inner (กี ลาโรช อินเนอร์) / How (ฮาว) / iiMK (มิเชล ไคลน์) / Maximus (แมกซิมัส) / Mix Self (มิกซ์ เซลฟ์) / Naturalizer (แนทเธอร์ไลค์เซอร์) และ Wacoal (วาโก้) มาแข่งขันกันเพื่อเข้ารับรางวัล The Forgotten Show Award 2019 (เดอะ ฟอร์ ก็อตเทน โชว์ อวอร์ด 2019)

พร้อมจัดแสดงแฟชั่นโชว์ ภายใต้คอนเซปต์ มิลเลนเนียล (Milennials) ที่เน้นความทันสมัย เปรี้ยว เฉี่ยว แต่คงความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ไว้ เพื่อเป็นการโชว์ศักยภาพด้านการเป็นผู้นำแฟชั่นอย่างแท้จริง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2562 เวลา 13:00-14:30 น. ณ ห้อง Hall 100 (ฮอลล์ 100) ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

สำหรับคณะกรรมการตัดสินการประกวด The Forgotten Show Award 2019 ประกอบด้วย
คุณสมพล ชัยสิริโรจน์ กรรมการบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นประธานคณะกรรมการตัดสิน
พร้อมด้วยคณะกรรมการกิตติมศักดิ์อีก 4 ท่าน ได้แก่
คุณทิพย์ลดา เชาวนปรีชา นักธุรกิจหญิง
คุณพันธ์สิริ สิริเวชชะพันธ์ ช่างภาพแฟชั่น
คุณลินดา เจริญลาภ เจ้าของแบรนด์ Lalalove และ Lalalove London และ
คุณอจิรภา ไมซิงเกอร์ เจ้าของตำแหน่ง THE FACE THAILAND คนแรกของเมืองไทย

โครงการ “The Forgotten Show 2019” เริ่มต้นขึ้นด้วยการแสดงแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นพิเศษ “White Black & Gold (ขาว ดำ ทอง)” ของ 8 แบรนด์ดัง ได้แก่ ARROW (แอร์โรว์), BSC Cool Metropolis (บีเอสซี คูล เมโทรโพลิส), Excellency (เอ็กเซลเลนซี่), Enfant (อองฟรองต์), Dask (แดกซ์), Naturalizer (แนทเธอร์ไลค์เซอร์), Louis Fontaine (หลุยส์ ฟองท์เทน) และ Streamline (สตรีมไลน์) ซึ่งคอลเลคชั่นดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมปี 2560 โดยบริษัทไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานแฟชั่นโชว์การกุศลกาล่าดินเนอร์ “White Black & Gold Charity Gala Dinner” เพื่อรวบรวมรายได้จากการจัดงานทั้งหมด โดยไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ เพื่อใช้ในการช่วยเหลือพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ ซึ่งการจัดงานครั้งนั้นได้เงินมอบให้กับมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ เกือบ 4 ล้านบาทเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2561 “White Black & Gold (ขาว ดำ ทอง)” ของบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ยังร่วมกับ มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา และบริษัทในเครือสหพัฒน์ สนับสนุนมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ เป็นเงินจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อดำเนินงาน ปรับปรุง พัฒนาโครงสร้างเชื่อมโยงระบบน้ำในพื้นที่ พร้อมระบบกระจายน้ำในแปลงเกษตร ผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ สอดคล้องกับลักษณะภูมิประเทศและรูปแบบการใช้น้ำ เตรียมความพร้อมของปัจจัยพื้นฐานการผลิต บริหารจัดการน้ำให้มีน้ำทำเกษตรกรรม สำหรับ 238 ครอบครัวในชุมชนเพชรน้ำหนึ่ง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี

ซึ่งการบริหารจัดการน้ำของมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ประกอบด้วย สองส่วนใหญ่ๆ คือ
1. งานพัฒนาโครงสร้างน้ำ ได้แก่ งานขุดลองคลองส่งน้ำระยะทาง 1.720 กิโลเมตร พร้อมท่อลอด, อาคารบังคับน้ำ, รางรับน้ำและผนังยกระดับน้ำ
2. งานแปลงเกษตรผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ ได้แก่ แปลงสาธิตเกษตรผสมผสาน จำนวน 34 ไร่

ปัจจุบันชุมชนเพชรน้ำหนึ่งมีผลผลิต 19 รายการ ได้แก่ ผักชี, คะน้าฮ่องกง, มะเขือเทศสวิทเชอรี่, มะเขือเทศสีดา, เครื่องต้มยำ, มะเขือเปาะ, ผักชีล้อม, แตงกวาเล็ก, ตะไคร้, ผักบุ้งจีน, ชะอม, พริกขี้หนู, ผักกูด, มะเขือกรอบ, มะเขือพวง, มะละกอดิบดำเนิน, มะละกอฮอร์แลนด์, ต้นอ่อนทานตะวัน, ต้นอ่อนผักบุ้ง ซึ่งผลผลิตทั้งหมดได้มีวางจำหน่ายในร้านโกลเด้น เพลซ

ส่วนในปีนี้นอกเหนือจากการเดินแฟชั่นโชว์แล้ว คุณบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ยังได้จัดให้มีการแสดงนิทรรศการ คอลเลคชั่น “White Black & Gold (ขาว ดำ ทอง)” ซึ่งเป็นสินค้าที่ทาง บริษัทไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายหารายได้มอบให้กับโครงการบริหารการจัดการน้ำของมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ภายใต้การดำเนินงานของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิฯ

รวมทั้งเครือสหพัฒน์ ยังได้ร่วมสนับสนุนการสร้างต้นแบบการจัดการน้ำแบบสระพวง คือ ใช้น้ำสระใหญ่เติมสระเล็ก และสร้างระบบกระจายน้ำแบบใช้น้ำน้อยในแปลงเกษตร อีกทั้งยังสร้างอาคารบรรจุ และเก็บรักษาผลผลิตผักผลไม้ ซึ่งจะแล้วเสร็จในปลายปี 2562 นี้

หลังจากเดินแฟชั่นโชว์ “White Black & Gold (ขาว ดำ ทอง)” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงคิวการแสดงแฟชั่นโชว์รอบสุดท้ายในโครงการ The Forgotten Show 2019 ของ 15 แบรนด์ดัง ที่ผ่านการคัดเลือกจากรอบแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้วประกอบด้วย ELLE Boutique / ELLE Homme / ELLE Kids / Excellency / Enfant / Guy Laroche / Guy de Guy Laroche / Guy Laroche Bag / Guy Laroche Inner / How / iiMK / Maximus / Mix Self / Naturalizer และ  Wacoal นำทีมนางแบบนายแบบโดย ลูกเต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ นักร้องนักแสดงชื่อดัง ภายใต้คอนเซปต์ มิลเลนเนียล (Milennials)

ทั้งนี้ ผู้ที่ชนะการประกวดและคว้ารางวัลชนะเลิศ The Best Forgotten Show Award 2019 ไปครอง ได้แก่ แบรนด์ Wacoal ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท, รองอันดับ 1 ได้แก่ แบรนด์ ELLE Kids ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท, รองอันดับ 2 ได้แก่ แบรนด์ Excellency รับเงินรางวัล 10,000 บาท, รางวัลชมเชย 3 รางวัล ได้แก่ แบรนด์ ELLE Boutique, แบรนด์ Enfant และ แบรนด์ ELLE Homme ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท 

Inspiration 15 แบรนด์ที่ผ่านเข้ารอบการแข่งขัน The Forgotten Show Award 2019
1. เสื้อผ้าผู้หญิง ELLE Boutique (แอล บูติค)
อีกมุมหนึ่งในมหานครปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ที่ไม่ได้มีแต่สถาปัตยกรรมที่หรูหราโอ่โถงและสงบนิ่ง แต่ยังมีสีสันความสนุกสนานและมีชีวิตชีวาสอดแทรกอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ELLE จึงนำความสนุกสนานของศิลปะสไตล์ Pop Art (ศิลปะป๊อป) ตามท้องถนนในมหานครปารีสมาเป็นแรงบันดาลใจด้วยคาแรคเตอร์ของ ELLE คือผู้หญิงที่มีความเรียบเท่ห์โก้ด้วย Silhouette (ภาพเงา) ผสมผสานกับความเป็น Artistic (ศิลปะ) ที่ไม่มีกฎเกณฑ์แบบธรรมดาทั่วๆ ไป
มีการนำเทรนด์แฟชั่นปี 2019 ด้วย Function (ฟังก์ชั่น) เสื้อผ้าที่สนุกในการสวมใส่ด้วยเทคนิคต่างๆ และการมิกซ์แอนด์แมทช์ (Mix and Match) เสื้อผ้าเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ยังมีการนำเอาเทคนิคการพิมพ์ลายผ้าแบบใหม่ Digital Print (ดิจิตอล ปริ้นท์) อาทิ ลวดลาย Animal (สัตว์), Tropical Portrait (ภาพจิตรกรรมในประเทศเขตร้อน), Scarf Print (ลวดลายในผ้าพันคอ) เข้ามาสร้างสีสันและรังสรรค์ให้คอลเลคชั่นเสื้อผ้า ELLE ชุดนี้มีความลงตัวพอดิบพอดี หากแต่ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจ เปรียบเสมือนดวงไฟที่ลุกโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา

2. เสื้อผ้าผู้ชาย ELLE Homme (แอล ฮอม)
ELLE Homme รูปลักษณ์ที่ปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ในคอลเลคชั่นนี้ จะว่าด้วยเรื่องของผู้ชายสมัยใหม่ที่สนใจในการดูแลตัวเองเป็นพิเศษ แต่ยังคงเก็บเอกลักษณ์ดั้งเดิมที่เน้นความสนุกกับการใช้ชีวิตและการชอบการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นเทรนด์แฟชั่นที่เป็นที่นิยมในสมัยนี้มาเป็นตัวกำหนดให้งานแฟชั่นในชุดนี้ดูหวือหวาและมีค่ามากกว่าชุดเดิมๆ ที่ผ่านมา
โดยการนำเอาความท้าทายของการผจญภัยในดาวอังคาร (Mcmurdo Dry Valleys) ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักวาลมาเป็นแรงบันดาลใจในสไตล์ Sportluxe (Sport (กีฬา) + Luxury (หรูหรา, ความโก้หรู) ที่มีความเป็นนักกีฬาด้วย Athletic Look (ลุคที่ดูแข็งแรง) และความเรียบเท่ห์ของ Silhouette (แสงเงา) แบบ Minimal (ต่ำสุด) มาเป็นส่วนประกอบสำคัญ พร้อมกับการใช้ Function (ฟังก์ชั่น) ต่างๆ เข้ามามีส่วนสำคัญในงานดีไซน์
ดังนั้นดีเทลที่นำมาใช้จะมีลวดลาย Graphic (กราฟฟิค) ของ ELLE Homme โดยเฉพาะ มีการใช้เทคนิค Double Layer Print ผ้าที่มีพื้นผิวสัมผัสและฟังก์ชั่นต่างๆ รวมถึงการนำเอา Accessory (อุปกรณ์) ต่างๆ เข้ามาสร้างสีสันให้กับเสื้อผ้า

3. เสื้อผ้าเด็ก ELLE Kids (แอล คิดส์)
GEN Z เป็นยุคที่เด็กมักให้เวลากับสังคมและเกมออนไลน์ ดังนั้นเสื้อผ้าเด็กในยุคนี้จึงมักเป็นเสื้อผ้าที่มีความคล่องตัว เพื่อให้เด็กใส่แล้วรู้สึกสบาย แต่ยังคงเน้นความโดดเด่นและบ่งบอกถึงความเป็นตัวของตัวเองของเด็กในยุคนี้เป็นหลัก

4. เสื้อผ้าผู้ชาย Excellency (เอ็กเซลเลนซี่)
Excellency นำคอนเซปต์ของการเป็น Young Prince ความเป็นเจ้าชายน้อย มาเป็นจุดเปลี่ยนแปลงให้กับคอลเลคชั่นนี้ เพื่อนำไปสู่โลกของแฟชั่นแห่งยุคที่ผสมผสานกันระหว่าง Heritage กับ Fashion จนกลายมาเป็นคอลเลคชั่นพิเศษที่มาพร้อมกับความสง่างาม

5. เสื้อผ้าเด็ก Enfant (อองฟรองต์)
จากการใช้ชีวิตของคนเราในปัจจุบันที่ต้องการความรวดเร็วกระชับฉับไวตามไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนรุ่น M Generation ที่ใช้ชีวิตแบบต้องการความเรียบง่ายสไตล์ Cool Smart จึงเกิดแรงบันดาลใจในการออกแบบ เสื้อผ้าสองสไตล์ในชุดเดียวกัน โดยสามารถปรับประยุกต์เสื้อผ้าให้มีลักษณะเป็น Two-in-One (ทูอินวัน) จากเสื้อผ้าที่เป็นเรื่องราวของ Circus (ละครสัตว์) ที่ดูสดใสสนุกสนาน ดูโก้หรู แล้วสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสไตล์สปอร์ตได้อย่างรวดเร็วเข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่น M Generation ที่ต้องการแต่งตัวให้ลูกมีลักษณะคล้ายตัวเอง โดยลุคสปอร์ตเป็นแบบที่เรียบง่าย เน้นสีขาวเป็นหลัก แล้วแต่งด้วยสีกรมแดงเพื่อความเป็นแบรนด์ Enfant ในสไตล์ ฝรั่งเศส

6. เสื้อผ้าผู้ชาย Guy Laroche (กี ลาโรช)
ความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยการเติบโตด้านวัตถุและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้มนุษย์ต้องการพื้นที่ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เสื้อผ้าจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสื่อถึงความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่ การมี Function (ฟังก์ชั่น) ที่ตอบโจทย์การใช้งาน เลือกสวมใส่ได้ง่าย เหมาะกับการใช้งาน ทั้งรูปแบบและการเลือกสรรวัสดุที่เหมาะสมตามโอกาสต่างๆ ล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น
คอลเลคชั่นนี้ Guy Laroche จึงให้ความสำคัญกับรูปแบบวัตถุดิบที่นำมาใช้ ทั้งน้ำหนักที่เบา Pattern (แพตเทิร์น) ที่รับกับสรีระ ตลอดจนการตัดเย็บที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย และสร้างความตื่นเต้นด้วยเนื้อผ้า Metallic (เมททาลิค) เพิ่มความเป็น Sport Man (สปอร์ต แมน) เพื่อให้คุณดูล้ำสมัยเรียบหรูและลงตัว

7. เสื้อผ้าผู้ชาย Guy de Guy Laroche (กี เดอ กีลาโรช)
ชุดกีฬาถูกผสมเข้ากับแฟชั่นแนว Street (สตรีท) บวกกับการตัดเย็บแบบสบายๆ มีการเรียงเลเยอร์ เพื่อสร้างสัดส่วนที่ละเอียดอ่อน ทำให้เสื้อผ้าคอลเลคชั่นนี้ของ Guy de Guy Laroche ดูน่าสนใจและน่าติดตามมากกว่าคอลเลคชั่นที่ผ่านมา ที่สำคัญมีการนำเอาเสื้อแจ็คเก็ตแบบมนมาจับคู่กับกางเกงขาเรียวเข้ารูป ทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้นไปอีก หรือจะเปลี่ยนจากกางเกงขายาวมาเป็นกางเกงขาสั้นที่มีความยาวถึงเข่า เสริมด้วยเสื้อกันหนาวพร้อมหมวกภาพพิมพ์ออกทางทรงเรขาคณิต ยิ่งทำให้คอลเลคชั่นนี้ของ Guy de Guy Laroche ดูดียิ่งขึ้นไป

8. กระเป๋า Guy Laroche Bag (กี ลาโรช แบค)
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากของเล่นในยุค 1990 เรื่องราวของสีสัน ความสนุกสนานในของเล่นยุคนี้ที่มากไปด้วยความทรงจำที่ร่วมสมัย นำมาผสมผสานกับงานเครื่องหนัง Accessories (แอสเซสซอรี่) ที่เปี่ยมไปด้วยความสนุก ผสานกับพลังงานด้านบวกเป็นสีสันเข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ Millennials Generation ที่พร้อมจะสนุกไปกับชีวิตในอนาคต สอดคล้องไปกับงาน Decoration ในงาน Design

9. ชุดชั้นในผู้ชาย Guy Laroche Inner (กี ลาโรช อินเนอร์)
เทรนด์รักสุขภาพของคนยุคปัจจุบัน พฤติกรรมการแชร์ไลฟ์สไตล์ลงสื่อโซเชียลมีเดีย ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสวมสปอร์ตแวร์ออกจากบ้าน หรือไปไหนมาไหนในชีวิตประจำวัน กลายเป็นความสนุกและบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์แอคทีฟของแต่ละคน Guy Laroche Inner จึงหยิบยกทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้มาเป็นจุดเด่นในการออกแบบเสื้อผ้าหรือรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของคอลเลคชั่นนี้

10. กระเป๋า How (ฮาว)
เนื่องจากเทรนด์ตอนนี้นิยมนำเอาอุปกรณ์ตกแต่งร่างกายและเสื้อผ้าต่างๆ (Accessories) เข้ามามีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เข็มขัดก็เป็นอีกหนึ่ง Accessories ที่เมื่อนำมาคาดลงบนตัวแล้ว มักสร้างความมั่นใจหรือความสนุกสนานให้กับผู้หญิงเราในเรื่องการเป็นผู้นำด้านแฟชั่นไม่มากก็น้อย กระเป๋าก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่ต้องแต่งเติม Accessories ลงบนตัวกระเป๋าให้ดูลงตัวเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัยรุ่นได้

11. เสื้อผ้าผู้หญิง iiMK (มิเชล ไคลน์)
Bianca แทนชื่อของผู้หญิง และภาษาอิตาลี แปลว่า สีขาว Vivacious หมายถึง ความสดใส มีชีวิตชีวา ทั้งหมดนี้ คือ ที่มาของแรงบันดาลใจทั้งหมด ที่มาจากเรื่องราวของหญิงสาวที่ไปท่องเที่ยวยุโรปที่ซึ่งคราคร่ำไปด้วยสถานที่ที่เป็นเมืองเก่า มีความคลาสสิคและประดับตกแต่งด้วยดอกกุหลาบ หรือดอกไม้สีๆ ซึ่งทำให้เมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสีขาวดูสดใส มีชีวิตชีวามากขึ้น

12. เสื้อผ้า Maximus (แมกซิมัส)
คอนเซปต์ของ Maximus ในปีนี้ เน้นไปที่ Jean Warriors หมายถึง การเป็นนักรบในยุคปัจุบันที่ต้องมีความเท่ห์และทันสมัย แต่ยังคงมีความดุดันในสไตล์นักรบ ที่สำคัญมีการนำเอารูปหน้ากาก Spartacus มาสร้างจุดเด่นให้คอลเลคชั่นนี้ดูสมกับเป็นนักรบ รวมถึงการนำเอาโทนสีสนิมทองและดำเข้ามามีบทบาท เสริมความขลังให้คอลเลคชั่นนี้ดุดันสมกับเป็นนักรบมากขึ้น

13. เสื้อผ้าผู้หญิง Mix Self (มิกซ์ เซลฟ์)
ในเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม เป็นช่วงที่ประชาชนชาวไทย จะมีส่วนร่วมอยู่ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและความทรงจำ แบรนด์ Mix-Self ได้นำความประทับใจในเรื่องราวนี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ภายใต้คอนเซปต์ Charming of Yellow

14. รองเท้าผู้หญิง Naturalizer (แนทเธอร์ไลค์เซอร์)
รองเท้า Naturalizer รุ่น BESTRA นี้ เป็นแนว Active Sport ที่ทำให้คล่องตัวและสามารถทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน สวมใส่สบาย มั่นใจ รับรองว่าถ้าได้ลองสวมใส่แล้ว BESTRA จะเป็นรองเท้าคู่ใจ คู่เท้าไปอีกคู่ รุ่นนี้ยังสามารถเลือกวัตถุดิบเป็นสีที่ชอบได้มากถึง 24 เฉดสี ซึ่งการมีสีสันให้เลือกมากถึง 24 เฉดสีนี่เอง ถือว่าเป็นลูกเล่นครั้งสำคัญ ที่ทำให้ Naturalizer มีความแตกต่างจากรองเท้าทุกรุ่นทุกแบบ เหมาะกับสาวๆ ที่รักสนุกและอยากได้สีสันของรองเท้ามาสร้างลูกเล่นให้กับชีวิต มีความแปลกใหม่และโดดเด่นในสายตาใครต่อใครมากยิ่งขึ้น

15. ชุดชั้นในผู้หญิง Wacoal (วาโก้)
ราชินีผู้สง่างามแห่งโลกอนาคต เดินทางผ่านมิติย้อนเวลากลับมายังโลกปัจจุบัน เอไดนำพา Smart Intelligent Technology มาสู่เมืองในโลกปัจจุบันนี้ ให้เป็นเมืองของ Cyberspace ผู้คนในเมืองนี้ได้ใช้ชีวิตใหม่ที่ไร้กรอบของอายุ มีความสะดวกสบายและมีความผาสุก ผู้คนจึงต่างชื่นชมยกย่องให้เธอเป็น THE GUEEN OF CYBERSPACE

#23rdSahaGroupFair2019 #TheForgottenShowAward2019 #The7thForgottenShow2019 #SahaGroupFair2019 #สหกรุ๊ปแฟร์ #งานแสดงสินค้าเครือสหพัฒน์ #Phoenixor #iamdoeme

ผู้หญิงจะสวยสุดๆ เมื่อไหร่? ก็เมื่อใส่วาโก้แค่ใส่ก็สวยได้สุด นั่นคือที่มาของคอนเซ็ปต์วาโก้ แฟชั่นโชว์ แบรนด์ชุดชั้นในที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ในใจผู้หญิงไทย (*จากการรับรางวัล No.1 Brand Thailand 2018-2019 หมวด Woman Underwear) โดยในปี 2019 นี้มาในชื่อชุด “Wacoal Don’t Stop Me Fashion Show 2019” ในคอนเซ็ปต์ “สวยให้สุด” สุดแบบไหน ผู้หญิงวาโก้กำหนดได้เอง

เป็นงานแห่งปีที่คนรักวาโก้และรักแฟชั่นชุดชั้นในรอคอย “Wacoal Don’t Stop Me Fashion Show 2019” โดยบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ที่ขนคอลเลกชั่นล่าสุดมานำเสนอถึงความ น่าหลงไหลของชุดชั้นในที่โดดเด่นทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์ ตอบรับทุกไลฟ์ไตล์สาวยุคใหม่ ที่มีความทันสมัยและไหวพริบดี เพราะวาโก้ต้องการให้ผู้หญิงทุกคนภูมิใจในสรีระของตัวเอง และเสริมสร้างความมั่นใจด้วยเสื้อผ้า เครื่องประดับหรือแม้แต่ชุดชั้นในที่สวมใส่ ถ้าจะใส่ต้องใส่แล้วสวยให้สุด คอนเซ็ปต์  “สวยให้สุด” ในปี 2019 นี้ เป็นการนำเสนอผ่านไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของหญิงสาวยุคใหม่ด้วย 3 ธีมสุดอลังการ จากหลากหลายคอลเลกชั่นล่าสุดของวาโก้ โดยทัพนางแบบ-นายแบบระดับอินเตอร์ ที่จะมาทำให้รันเวย์สะเทือนอีกครั้ง

คุณธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการบริหาร บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “วาโก้แฟชั่นโชว์จัดขึ้นทุกปีในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ปีนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 23 ความพิเศษของแฟชั่นโชว์ก็จะพิเศษขึ้นทุกๆ ปีตามคอลเลกชั่นใหม่ของวาโก้ในช่วงนั้น Wacoal Don’t Stop Me Fashion Show 2019 ในคอนเซ็ปต์ “สวยให้สุด” นี้ก็หมายถึง ผู้หญิงทุกคนมีความสวยแม้จะมีความต่างทางสรีระและบุคลิกภาพ แต่ก็ไม่มีอะไรหรือใครจะมาหยุดความสวยที่สุดจากข้างในได้ ดังนั้นผู้หญิงจะสวยสุดๆ ก็เมื่อคุณมีความมั่นใจและความเชื่อมั่นกับทุกอย่างที่ทำ นั่นคือคำตอบของความสวยตามแบบฉบับผู้หญิงวาโก้

โดยถ่ายทอดผ่านไลฟ์สไตล์ของหญิงสาวใน 3 ธีมหลายลุคหลายสไตล์ คอลเลกชั่นล่าสุดจากวาโก้ ได้แก่
1. The Fashion Lover วาโก้ เอาใจสาวยุคใหม่กันแบบสุดๆ ด้วย Wacoal Smart Size บรา Gen ใหม่ เลือกง่าย ใส่สวย กระชับทุกคัพมีครบทุกไซซ์ สบายไร้โครง หรือหากว่าคุณเป็นสาวนักผจญภัยแบบไร้ขีดจำกัด เชื่อว่าต้องชื่นชอบ Travel Bra by Wacoal Mood บราไร้ขอบของสาวนักผจญภัย บราเดียวที่ม้วนได้จริง ประหยัดเนื้อที่กระเป๋าให้คุณได้มีพื้นที่สนุกเยอะขึ้น, สำหรับสาวลุคหวานซ่อนเปรี้ยวต้องไม่พลาด Wacoal Braberry Lay-mon Girly Collection บราที่จะช่วยเผยความหวาน ปนขี้เล่น เผยความเป็นตัวคุณ
2. The Comfort Seekers – สำหรับสาวที่ต้องการความเบาสบายแบบไร้ขีดจำกัด สัมผัสความนุ่มนวลของบราไร้โครง  ไร้ตะเข็บจาก Smooth Bra by Wacoal Mood ให้คุณชิลได้ทุกวัยและทุกวัน หรือสำหรับผู้หญิงที่ต้องการสยบทุกความร้อนด้วยนวัตกรรมบราเย็น Cool Innovation และ Oh! My Nude Lingerie เย็นอกก็เย็นใจ และบราน้องใหม่ล่าสุด Wacoal Skin Care ให้ความชุ่มชื้น นุ่มลื่น ทุกผิวสัมผัส ด้วยเส้นใยที่ผสมสารสกัดจากธรรมชาติ Aloe Vera
3. The Magnificence Divas – เติมเต็มทุกประสบการณ์ที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนา ด้วยความกระชับ เนียนเรียบ Wacoal Shape Beautifier ยกกระชับต้นขาเพรียวเรียวยาว สะโพกสวยเป็นธรรมชาติ, Wacoal Curve Diva บราสำหรับสาวคัพใหญ่ ไซค์ใหญ่ ที่เผยเสน่ห์ชวนหลงใหลน่าสัมผัส เผยส่วนโค้งที่งดงาม ปลุกความเซ็กซี่ที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณ

“Wacoal Don’t Stop Me Fashion Show 2019” ในคอนเซ็ปต์ “สวยให้สุด” ได้รวบรวมความพิเศษของผลิตภัณฑ์วาโก้มาให้คุณสาวๆ ได้ยลโฉม อาทิ WACOAL SMART SIZE, WACOAL MOOD, WACOAL MOTION WEAR, WACOAL COOL, WACOAL BRABERRY, WACOAL CURVE DIVA, WACOAL SKIN CARE และ WACOAL SHAPE BEAUTIFIER พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่ วาโก้ ช็อปและเคาน์เตอร์วาโก้ทั่วประเทศ หรือ ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ www.wacoal.co.th หรือ Facebook : Wacoal Thailand

#23rdSahaGroupFair2019 #DontStopMebyWacoal #DontStopMe #Wacoal #BeingBeautiful #สวยให้สุด #WacoalThailand #WacoalWowSales #SahaGroupFair2019 #สหกรุ๊ปแฟร์ #งานแสดงสินค้าเครือสหพัฒน์ #Phoenixor #iamdoeme